22 พ.ย. 2023
CZ จากเศรษฐีคริปโทล้านล้าน วันนี้ลาออก ยอมรับละเมิดกฎต่อต้านฟอกเงิน /โดย ลงทุนแมน
-เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ได้มีรายงานออกมาว่า Changpeng Zhao หรือ CZ ผู้ก่อตั้ง Binance ธุรกิจคริปโท ใหญ่สุดในโลก ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง CEO ของบริษัท
ภายหลังจากที่ยอมรับว่า Binance ได้ทำผิดในข้อหาละเมิดกฎต่อต้านการฟอกเงิน ตามที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ตั้งข้อกล่าวหาไว้
ทั้งนี้ Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ รายงานว่า Binance กลายมาเป็นช่องทาง ให้ผู้กระทำผิดทำธุรกรรม สนับสนุนการก่อการร้าย และ ยาเสพติด เป็นแสนธุรกรรม
จากการออกมายอมรับผิดของ CZ บริษัทของเขาต้องจ่ายค่าปรับ 150,000 ล้านบาท ในขณะที่ตัวเขาเอง ต้องจ่ายค่าประกันตัวไปอีกราว 6,000 ล้านบาท..
จนมาถึงวันที่ตัดสินใจลาออก เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit – คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เกิดจาก “คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง” ที่ CZ ในวัยเด็กได้รับเป็นของขวัญวันเกิด
เนื่องจากพ่อของเขาเป็นโปรแกรมเมอร์ คุณ Zhao จึงได้เรียนรู้ภาษาคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ตลอดเวลา
เขาจึงชื่นชอบ และ เชี่ยวชาญทักษะคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เด็ก
เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย เขาก็เลือกเรียนสายวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
หลังจากจบการศึกษา CZ ได้เข้าทำงานที่ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ในตำแหน่งนักพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบซื้อขายหลักทรัพย์
และที่นั่นก็ทำให้เขาเรียนรู้เรื่องระบบ Exchange
หรือกระดานซื้อขายหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก
CZ พบว่าระบบกระดานซื้อขายมีปริมาณเงินเข้าออกมหาศาล จุดนี้เอง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาหลงใหลในอุตสาหกรรมการเงินเป็นอย่างมาก
ต่อมา เขาก็ได้ทำงานที่ Bloomberg Tradebook ในฐานะนักพัฒนาซอฟต์แวร์ เช่นเดิม และในที่สุดก็ได้ก่อตั้งบริษัทแรกของตัวเองขึ้นมาชื่อว่า Fusion Systems บริษัทที่ให้บริการระบบซื้อขายหลักทรัพย์แก่เหล่าโบรกเกอร์
ระหว่างนั้นเอง คุณ Zhao ได้รับคำชักชวนจากคนที่รู้จัก
ว่าควรเปลี่ยน 10% ของสินทรัพย์ของตนเองให้เป็นบิตคอยน์
เพราะมีโอกาสที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงถึง 10 เท่า
หลังจากที่ได้รับคำแนะนำ คุณ Zhao ก็ไม่รอช้า
กลับไปศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับบิตคอยน์ต่อด้วยตนเอง
แล้วพบว่าเทคโนโลยี Blockchain ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับคริปโทเคอร์เรนซี น่าสนใจเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ตัวเองคุ้นเคยกับบิตคอยน์สักพักแล้ว เขาก็พบว่าโลกของคริปโทเคอร์เรนซีนี้น่าหลงใหลกว่าที่คิด หลงใหลในระดับที่เขาตัดสินใจขายอะพาร์ตเมนต์เพื่อมาซื้อบิตคอยน์
และก็ได้ลาออกจากบริษัท มาสู่วงการคริปโทเคอร์เรนซีทันที
ซึ่งที่นั่นเอง ทำให้เขาได้ร่วมงานกับผู้ที่เชี่ยวชาญมากมาย
เช่นคุณ Roger Ver นักลงทุนบิตคอยน์รุ่นบุกเบิก
อย่างไรก็ตาม เขายังมองว่าตนเองมีความถนัดเรื่องระบบ Exchange มากกว่า
ทำให้หลังจากนั้นไม่นาน เขาจึงเปลี่ยนมาทำงานที่ OKCoin ซึ่งทำธุรกิจตลาดซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของ “Binance” ตลาดซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดของโลกปัจจุบัน
ในปี 2017 ก่อนหน้าที่จะเกิดบริษัท Binance ขึ้นมา
ช่วงเวลานั้น ระบบของ Exchange ส่วนใหญ่ค่อนข้างแย่
และไม่เป็นมิตรกับกลุ่มลูกค้ามากนัก
ความแย่ที่ว่านี้ ก็อย่างเช่น อินเทอร์เฟซใช้งานยาก และระบบในการทำธุรกรรมก็ล่าช้า
รวมถึงไม่มีบริการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าอีกด้วย
ลูกค้าส่วนใหญ่จึงมักเป็นผู้ที่มีความชำนาญคอมพิวเตอร์ระดับหนึ่ง
ทำให้ CZ เกิดไอเดียที่จะสร้าง Crypto Exchange ของตัวเอง จากช่องว่างและ Pain Point ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ณ เวลานั้น
แต่ด้วยเงินทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด ไม่เพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจ
CZ จึงเลือกระดมทุนผ่านการ ICO (Initial Coin Offering) หรือก็คือ การออกเหรียญดิจิทัลเพื่อแลกกับเงินสด
จึงเกิดเป็นเหรียญ “Binance” หรือ Binance Coin ขึ้นมา ซึ่งผู้ที่ถือจะได้รับประโยชน์ เช่น สามารถนำ Binance Coin มาใช้ลดหรือใช้แทนค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม
ด้วยความที่ Binance เข้ามาตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ดีกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย ความรวดเร็วในการทำธุรกรรม ค่าธรรมเนียมที่ต่ำ และมีระบบบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
ภายใน 6 เดือน Binance ก็ได้กลายเป็น Crypto Exchange ใหญ่สุดในโลก
แล้วปัจจุบัน Binance มีบริการหลัก ๆ อะไรบ้าง ?
ยกตัวอย่างก็เช่น Exchange บริการแลกเปลี่ยนและเทรดคริปโทเคอร์เรนซีแบบครบวงจร มีตั้งแต่การซื้อขายแบบปกติ ใช้มาร์จิน ฟิวเจอร์ส ไปจนถึงใช้บอทเทรด หรือ ก
– Square และ Academy พื้นที่พูดคุย และบริการให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งมีตั้งแต่เรื่องคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงเศรษฐศาสตร์ ระบบกลไกตลาด
– BNB Chain บริการให้พื้นที่แก่นักพัฒนาในการสร้าง DeFi หรือ ระบบการทำธุรกรรมทางการเงินโดยปราศจากตัวกลาง
และอีกหลาย ๆ บริการที่เกี่ยวข้องกับคริปโท จนเป็นเหมือนกับ Crypto Ecosystem เช่นเดียวกับที่ Apple สร้าง iOS ขึ้นมา
การเติบโตแบบก้าวกระโดด ของ Binance ทำให้ตัวผู้ก่อตั้งอย่าง CZ กลายมาเป็นมหาเศรษฐี
โดย Forbes ประเมินความมั่งคั่งของเขา สูงถึง 2 ล้านล้านบาท ในปี 2022
แต่การเติบโตของบริษัท ก็มาควบคู่มากับการถูกตั้งข้อหาจากผู้กำกับดูแล จากทั้งภาครัฐ และ สถาบันการเงินต่าง ๆ ทั่วโลก ปีนี้ ความมั่งคั่งของเขาปรับตัวลดลงเหลือ ราว 3 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 80%..
จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ CZ ก็ได้ออกมายอมรับ ข้อกล่าวหา ว่าล้มเหลวในการต่อต้านการฟอกเงิน จนถูกปรับไปมหาศาล
ท้ายที่สุด เขาได้ตัดสินใจ ลาออกจากบริษัท และส่งไม้ต่อให้กับ Richard Tang ซึ่งเป็น Global Head of Regional Markets มารับตำแหน่ง CEO ต่อจากเขา
การลาออกของ CZ ก็ได้ส่งผลกระทบต่อมูลค่าเหรียญ BNB ที่ได้ร่วงลงราว 10% บวกกับมีเงินไหลออกจาก Binance ไปแล้ว ราว 35,000 ล้านบาท..